เลือกหาแม่บ้านกึ่งดูแลผู้สูงอายุอย่างไรให้ตรงตามความต้องการของเราที่สุด

แชร์บทความนี้

สาเหตุที่ต้องหาแม่บ้านกึ่งดูแลผู้สูงอายุควรมีการอบรมและฝึกฝนการดูแลมาก่อนส่งไปบ้านลูกค้า

สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) หรือสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่ากับ หรือมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด หรือมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 7 ถ้าหากสังคมใดมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่ากับ หรือมากกว่าร้อยละ 20 หรือมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปเท่ากับ หรือมากกว่าร้อยละ 14 ก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) และสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-aged Society) คือ สังคม หรือประเทศที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 28

ขณะที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาหลายปีแล้ว ข้อมูลประจำปี 2561 พบว่า มีประชากรทั้งหมด 66.4 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุ 10.6 ล้านคน นับเป็นร้อยละ 16.06 (1) ในปี 2562 ประชากรผู้สูงอายุมีมากถึง 11.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.5 ของประชากรทั้งหมดจำนวน 69.3 ล้านคน (2)

ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2565 โดยจำนวนผู้สูงอายุจะอยู่ราวร้อยละ 20-30 และที่สำคัญกว่านั้น ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 28 ในปี 2574 ( ที่มา : https://resourcecenter.thaihealth.or.th/article/)


ในปัจจุบันนี้มีบริษัทดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงเกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากปัญหาทางด้านสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุมีมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการที่เราหาคนมาดูแลผู้สูงอายุ เป็นเรื่องยากที่เราจะหาคนที่เราไว้วางใจได้ ดังนั้นการหาคนที่มาดูแล หรือหาแม่บ้านที่เข้ามาดูแลผู้สูงอายุ ต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์อะไรบ้าง

  1. ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุต้องมีประวัติที่ไว้ใจได้ การจะจ้างใครสักคนมาดูแลคนที่เรารักมากที่สุด เราก็ต้องหาคนที่น่าไว้ใจมาดูแลในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถดูแลได้ บริษัทจะต้องเป็นบริษัทที่เปิดมานานแล้ว มีประวัติที่ดีในการให้บริการ แม่บ้านต้องเป็นผู้มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญในการดูแล เป็นต้น
    การหาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ถ้าเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้ที่อยู่อาศัยของเราจะมีความสะดวก ในกรณีที่มีปัญหาหรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่เราต้องการขอความช่วยเหลือ ทางบริษัทจะได้ส่งผู้ดูแลมาได้อย่างทันท่วงที

  2. ค่าใช้จ่ายในการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุ ปัจจุบันนี้มีศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเกิดขึ้นมากมาย การเลือกใช้บริการหาผู้ดูแลผู้สูงอายุว่ามีการดูแลแบบไหนบ้าง เช่น การดูแลผู้สูงอายุรายวัน รายเดือน หรือดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งค่าบริการก็จะแตกต่างกัน เราต้องคำนึงถึงราคาที่สมเหตุสมผล ให้เหมาะกับงบประมาณของเรา

  3. เมื่อเราได้สถานที่ดูแลผู้สูงอายุแล้ว เราลองดูคุณสมบัติของคนที่จะมาดูแล ให้บริการคนที่เรารักกันดีกว่า ว่าคุณสมบัติที่ดีของผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุ เป็นอย่างไร

    • ความรับผิดชอบ เป็นคุณสมบัติหลักของผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุพึงมี
    • ความรู้ แม่บ้านดูแลผู้สูงอายุ ต้องมีความรู้และประสบการณ์การดูแลคนป่วยหรือผู้สูงอายุมาก่อน เพราะการดูแลคนกลุ่มนี้ต้องการความเชี่ยวชาญและความชำนาญ เช่นการดูแลเรื่องอาหาร หารพูดคุย การออกกำลังกาย เป็นต้น
    • หาแม่บ้านที่ดูแลต้องมีสภาวะจิตใจและอารมณ์ที่ดี เนื่องจากการดูแลคนกลุ่มนี้ ซึ่งผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยมักมีอารมณ์ที่อ่อนไหวง่ายกว่าบุคคลทั่วไป การพูดคุยหรือให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับคนกลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นแม่บ้านที่ดูแลผู้สูงอายุต้องมีสภาวะจิตใจที่มั่นคงและอ่อนโยน
    • สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง สุขภาพ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแม่บ้านผู้ดูแล เพราะฉะนั้นผู้ดูแลควรรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณืแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา

การจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุนั้นมีประโยชน์อยู่มากมาย เราลองมาดูกันว่า ประโยชน์ที่ได้จากการจัดหาแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุนั้นมีอะไรบ้าง

  1. ช่วยบางเบาภาระในการดูแลผู้สูงอายุ ในช่วงเวลาที่เรามีภาระที่ต้องทำ การหาแม่บ้านที่มาดูแลพ่อแม่ของเราก็เป็นการแบ่งเบาภาระหน้าที่ของเราในช่วงที่เราไม่มีเวลาที่จะดูแลท่าน

     

  2. เราจะได้ผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ต้องการการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจมากที่สุด การหาคนที่มีความชำนาญ มีความรู้มาช่วยดูแลถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก

     

  3. การหาเพื่อนคุย เพื่อสร้างสภาพจิตใจที่สดใส และสภาวะจิตใจที่แข็งแรง และช่วยลดสภาวะอารมณ์เครียดภายในจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย

     

  4. สามารถหาคนที่มาทำหน้าที่แทนเราได้ เช่นการพาผู้สูงอายุไปหาหมอ หรือออกกำลังกายโดยที่คุณไม่ต้องกังวลอะไร

การดูแลผู้สูงอายุที่มีมาตรฐานนั้น ทำไมการฝึกอบรมผู้ดูแลถึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุ การฝึกอบรมนั้นสำคัญแค่ไหน ลองดูกัน

  1. เป็นการสร้างมาตรฐานให้กับผู้ดูแลหรือแม่บ้านที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากการฝึกอบรม เป็นการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงาน ให้อยู่ในกรอบ มาตรฐานเดียวกันขององค์กร การออกไปทำงานดูแลผู้สูงอายุนั้น สิ่งที่ต้องเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ความรู้ทั่วไปในการดูแลผู้สูงอายุ การส่งเสริมสุขภาพ การดูแลส่วนบุคคลหรือแม้กระทั่งการช่วยชีวิตยามเกิดเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น

     

  2. การปรับพฤติกรรมและทัศนคติของผู้ดูแล การปรับทัศนคตินั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ถ้าทัศนคติ หรือพฤติกรรมที่มีต่อหน้าที่ของเราดี จะช่วยสร้างความกระตือรือร้นในหน้าที่การงาน และสร้างความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาที่พบเจอในการทำงานได้ อีกทั้งยังสร้างความมุ่งมั่นในการทำงานและทำให้หน้าที่การงานที่เราได้รับมอบหมายประสบความสำเร็จอีกด้วย

     

  3. เสริมสร้างสภาพจิตใจของผู้ดูแล หรือแม่บ้านที่ดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากหน้าที่การดูแลผู้สูงอายุ นอกจากจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการดูแลทางร่างกายแล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าเราต้องดูแลจิตใจของผู้สูงอายุเพิ่มอีกด้วย ซึ่งถ้าสภาพจิตใจของผู้ดูแลไม่พร้อมที่จะให้บริการ เราก็ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ ดังนั้นการเสริมสร้างสภาพจิตใจของผู้ดูแลจึงมีความสำคัญ เพราะฉะนั้นการฝึกอบรมทางด้านจิตใจจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความรู้กับผู้ดูแล

จากเหตุผลข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า การมองหาแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุที่จะเข้ามาช่วยบ่งเบาภาระในเวลาที่เราไม่สามารถดูแลท่านได้ ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรที่จัดหาแม่บ้าน พยาบาลที่ดูแลผู้สูงอายุเกิดขึ้นมากมาย การมองหาองค์กรที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และแม่บ้านต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมตามาตรฐานทั่วไปขององค์กร หากท่านกำลังมองหาศูนย์จัดหาแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุ ลองเข้ามาพูดคุยถึงความต้องการของผู้ดูแลให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ทางhttps://mindhomeservice.com เป็นศุนย์จัดหาแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับผู้รับบริการมากที่สุด

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://mindhomeservice.com
โทร. 062-635-7387 , 080-438-6591
Line@: @MindHomeService
Facebook: MindHomeService
E-mail: [email protected]

 


แชร์บทความนี้
Recent Posts
บริษัทจัดหางาน มายน์ โฮม เซอร์วิส จำกัด ใบอนุญาตเลขที่ น. ๑๖๓๕/๒๕๖๑